
ศรีบูรพา
บันทึกแห่งอิสรา
Synopsis
ละครร้อง “ศรีบูรพา บันทึกแห่งอิสรา” เป็นละครว่าด้วยชีวิตของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์
นักเขียนซึ่งเป็นต้นแบบของนักคิด นักสร้างสรรค์ นักเขียน และคนทำสื่อยุคบุกเบิกในเมืองไทย
ละครเรื่องนี้เคยจัดแสดงครั้งแรกในวาระ100 ปีชาตะกาล กุหลาบ สายประดิษฐ์ ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อปี 2548 โดยใช้ชื่อเรื่องว่า ‘อิสราชน’ ต่อมาแสดงในเทศกาลละครกรุงเทพปี 2551 ที่มะขามป้อมสตูดิโอ สะพานควาย โดยเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น ‘บันทึกอิสรา’ และปรับบทละครให้เล่าเรื่องผ่านสมุดบันทึกและมุมมองของ ชนิด สายประดิษฐ์ ภรรยาของศรีบูรพา
ประดิษฐ ประสาททอง หยิบละครเรื่องนี้มาทำใหม่อีกครั้ง โดยปรับปรุงให้มาสมบูรณ์ที่สุดใน ‘ศรี บูรพา บันทึกแห่งอิสรา’ 2557 โดยจงใจนำเสนอละครเรื่องนี้ด้วยภาษาสละสลวยงดงามและแฝงด้วยแนวคิดลุ่ม ลึกซับซ้อน เช่นเดียวกับงานของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ในรูปแบบละครร้อง ที่ต้องอาศัยบทขับร้องที่สร้างขึ้นด้วยภาษาประณีต สื่อผ่านทำนองเพลงไพเราะกินใจมากกว่าการปลุกเร้าทางอารมณ์ ทำนองเพลงส่วนใหญ่ที่ใช้ในบทละครเป็นทำนองที่แต่งขึ้นเพื่อใช้แสดงละครร้อง ในยุคสยามหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง อันถ่ายทอดมาจาก แม่ครูสุดจิต ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งถ่ายทอดมาจากคณะละครร้องย่านบางลำพูอีกทอดหนึ่ง ทำนองเพลงจึงมีความร่วมสมัยกับเหตุการณ์ในท้องเรื่อง พร้อมด้วยดนตรีแสดงสดทุกรอบการแสดงจากเครื่องสากลผสมดนตรีไทย เรียบเรียงเสียงประสานโดย คานธี วสุวิชย์กิต หนึ่งในผู้สร้างสรรค์ดนตรีเพื่อการแสดงคุณภาพจำนวนมากของไทย
Playwright Note
บทละครเรื่องนี้ถือเป็นจุดกำเนิดละครร้องในแบบเฉพาะของผม ที่ว่าแบบเฉพาะก็คือ มีการเล่าเรื่องโดยใช้ทำนองเพลงละครร้องที่ผมได้รับการถ่ายทอดจากแม่ครู สุดจิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติ แต่มีการปรับการขับร้องให้แปลกหูไปจากต้นฉบับ ใช้มวลหมู่ที่แสดงเป็นตัวละครอื่นๆช่วยขับร้องท่อนเอื้อนแทนลูกคู่ ใช้วงดนตรีสากลผสมเครื่องดนตรีไทยและมีการเรียบเรียงทางดนตรีให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเล่าเรื่องราวของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 เป็นหลัก ผมเรียกละครร้องในแนวนี้ของผมว่า“ละครร้องทำนองครู” คือใช้ทำนองเพลงละครร้องที่เรียนมาจากครู สร้างเป็นบทละครเรื่องใหม่ๆเล่าเรื่องราวบุคคลในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ซึ่งได้สร้างสรรค์ไว้ 5 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ ศรีบูรพา บันทึกแห่งอิสรา (เล่าประวัติชีวิต กุหลาบ สายประดิษฐ์)
เพลงรัก2475 (แรงบันดาลใจจากชีวิตและความรักของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์)
มังกรสลัดเกล็ด (แรงบันดาลใจจากชีวิตและอุดมการณ์ของ ป๋วย อึ๊งภากรณ์)
รักเตลิดเปิ๊ดสะก๊าด (เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในยุคมาลานำไทยของ มัณฑนา โมรากุล)
และ วันลาจาก (เล่าเรื่องราววีรกรรมเสรีไทยของ จำกัด พลางกูร)
จุดเริ่มต้นของละครร้องเรื่องนี้ เกิดจากคณะกรรมการจัดงาน 100 ปีชาตะกาล
กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้มอบหมายให้ผมจัดละครเพื่อแสดงในวาระดังกล่าวในปี 2548
ในครั้งนั้นผมทดลองใช้รูปแบบการแสดงละครร้องมานำเสนอเรื่องราวเป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุผลที่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดในท้องเรื่องนั้น (หลัง 2475 จนถึง 2500) เป็นช่วงเวลาที่ละครร้องของไทยกำลังเฟื่องฟู และในบทละครผมได้นำบางวรรคบางตอนจากบทประพันธ์ของ กุหลาบ หรือ ศรีบูรพา มาเกี่ยวข้องด้วยอยู่หลายบท ซึ่งเมื่อแปรรูปคำประพันธ์ร้อยแก้วเหล่านั้นออกมาเป็นร้อยกรองในทำนองขับร้องอันละเมียดละมัยแล้วช่างสื่อถึงบรรยากาศของยุคสมัยและลักษณะนิสัยของคุณกุหลาบรวมทั้งอารมณ์ของบทประพันธ์ของท่านได้เหมาะเจาะเหลือเกิน
บทละครเรื่องนี้มีการนำมาจัดแสดงอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งจะมีการปรับปรุงทั้งตัวบทและทิศทางการกำกับที่มีพัฒนาการอย่างชัดเจน เริ่มจากครั้งแรก ใช้ชื่อเรื่อง “อิสราชน” แสดงที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ปี 2548 บทละครเล่าประสบการณ์ในคุกจากมุมมองของคุณกุหลาบเป็นหลัก
ต่อมาแสดงอีกครั้งใช้ชื่อเรื่อง “บันทึกอิสรา” ที่มะขามป้อมสตูดิโอ สะพานควาย ปี 2552 บทละครมุ่งที่มุมมองของคุณชนิด ผู้เป็นภรรยาที่ถ่ายทอดเรื่องราวสู่ผู้ชมจากการอ่านบันทึกของสามีที่เขียนระหว่างติดคุก การแสดงครั้งนี้เป็นการการย่อส่วน production ที่ลงตัวกว่าครั้งแรก
จนกระทั่งการแสดงครั้งที่สาม ใช้ชื่อเรื่อง “ศรีบูรพา บันทึกแห่งอิสรา” แสดงที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จัดโดยสำนักพิมพ์ไรเตอร์ ในปี 2557 ซึ่งห่างจากการแสดงครั้งที่สอง 5 ปี พบว่ามีการตกตะกอนความคิด รวมทั้งบรรยากาศการเมืองและสังคมหลังการรัฐประหารนั้นมีอิทธิพลต่อการปรับปรุงบทละคร ซึ่งในครั้งนี้เป็นการเล่าเรื่องจากทั้งฝ่ายคุณกุหลาบที่เขียนบันทึกจากในคุก และจากคุณชนิดที่อ่านบันทึกอยู่นอกคุก และด้วยเหตุการณ์ในท้องเรื่องนั้นพ้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะทำการแสดงพอดี จึงส่งผลให้ละครเรื่องนี้ทำหน้าที่สื่อสารได้อย่างเต็มศักยภาพ ในขณะนั้นสังคมไทยอยู่ในความขัดแย้งสุดขั้วจากฝ่ายสนับสนุนการรัฐประหารและฝ่ายต้องการประชาธิปไตย แต่เนื่องด้วยเรื่องราวของศรีบูรพานั้นเชื่อมโยงคนทุกฝ่าย รวมทั้งผู้อ่านที่เป็นแฟนสำนักพิมพ์ไร้เตอร์และแฟนละครของคณะอนัตตานั้นมาจากคนหลากกลุ่ม จึงทำให้การแสดงแต่ละรอบนั้นได้รับพลังงานจากผู้ชมต่างขั้วต่างสีที่ได้มานั่งชมด้วยกันและปฎิสังสันท์กันหลังละครจบ นับเป็นบรรยากาศในอุดมคติที่เกิดได้ยากมากในช่วงเวลานั้น
รศ.ดร.ปาริชาติ จึงวัฒนาภรณ์ ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่าเป็นปรากฎการณ์ที่น่าอัศจรรย์และประวัติศาสตร์การละครร่วมสมัยของไทยควรต้องบันทึกไว้ด้วยว่าละครเรื่องนี้มีเนื้อหาสุ่มเสี่ยงล่อแหลมอย่างยิ่งแต่สามารถจัดแสดงหลังจากการรัฐประหารได้เพียงไม่กี่เดือน นับเป็นความกล้าหาญและแสดงให้เห็นถึงพลังของศิลปะการละครที่มีต่อสังคมอีกด้วย
Cast & Crews
อิสราชน 2006
วันที่ : 31 มีนาคม 2549
สถานที่ : หอเล็ก ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
นักแสดง
คานธี อนันตกาญจน์ (กุหลาบวัย 50 ปี)
ดนย บุญทัศนกุล (กุหลาบวัย 20-27 ปี)
มนฑกานต์ รังสิพราหมณกุล (ชนิดวัย 45 ปี)
สุกัญญา สมไพบูลย์ (ชนิดวัย 20 ปี)
แนน (ชนิดวัย 17 ปี)
ประดิษฐ ประสาททอง (จอมพล ป.)
โกมุท คงเทศ (คราม)
บุญสืบ พันธ์ประเสริฐ (สวง)
ภูมินทร์ ธนเกษพิศาล (นายมั่น)
เกรียงไกร ฟูเกษม (นายคง , ผู้คุม)
พงษธริศ จันทรา(ฉันทนา , ลูกคู่)
สุนนท์ วชิรวราการ (การุณย์)
พงษ์เทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา (ผู้คุม , ลูกคู่)
อภิรักษ์ ชัยปัญหา (พระยาสัน , ลูกคู่)
กิตติศักดิ์ แซ่หล่อ (อาโก)
นพพันธ์ บุญใหญ่ (นักมวยฝ่ายน้ำเงิน 2 , นักโทษ)
สุรชัย มิดำ (สุวิทย์ , นักโทษ)
วุฒิพงษ์ จันวิสิ (นักมวยฝ่ายแดง , นักโทษ)
เสาวนีย์ วงศ์จินดา (ลูกคู่)
บุญพร พูนล้ำเลิศ (ลูกคู่)
นริสสร ศิริจันทร์โท (คุณหญิง)
รสิมา กาญจนกันติกะ (แม่ค้า)
กีรติ ศิวะเกื้อ (นักมวยฝ่ายน้ำเงิน 1 ,นักโทษ)
เพ (นักเรียนเทพศิรินทร์)
พลอย (นักศึกษา)
นักดนตรี
กำพล ตาดสุวรรณ (ระนาดเอก)
นรัตน์ชัย อิ่มสุทธิ (ตะโพน ,กลองแต๊ก)
จิระ หนูชัยแก้ว (ฉิ่ง, กลองใหญ่)
ชัด สังขะอ้น (เชลโล)
โมจิน พิชญาภรณ์ (ไวโอลิน)
ชนะศักดิ์ วงษ์วีระวินิจ (ฟลุท)
อำนวยการผลิต
สวนีย์ อุทุมมา
บทละครและกำกับการแสดง
ประดิษฐ ประสาททอง
เรียบเรียงดนตรี
คานธี อนันตกาญจน์
ออกแบบแสง
ภาวินี สมรรคบุตร
ทีมผู้ช่วยผู้กำกับการแสดง
ดวงใจ หิรัญศรี
วิศรุต รัตนชวลิต
น้ำมนต์ จ้อยรักษา
ศรายุทธ เพชรสัมฤทธิ์
สุรศักดิ์ ตั้งหทัยวิสุทธิ์
บันทึกอิสรา 2008
วันที่ : 9-15 ธันวาคม 2551
สถานที่ : มะขามป้อมสตูดิโอ
นักแสดง
ประดิษฐ ประสาททอง (กุหลาบ)
พงศ์ธริศ จันทรา (กุหลาบวัยหนุ่ม)
มนทกานติ รังสิพราหมณกุล (ชนิด)
ณัชชา สวัสดิ์รักเกียรติ (ชนิดวัยสาว)
สุกัญญา สมไพบูลย์ (ชนิดวัยสาว)
บุญสืบ พันธ์ประเสริฐ (สวง)
ภูมินทร์ ธนเกษพิศาล (ท่านผู้นำ)
ดนย บุญทัศนกุล (อาโก/ผู้คุม/นายคง)
พีรวิชณ์ สัทธรรมนุวงศ์ (นายมั่น)
ณัฐฐิพร อะทะขันธ์ (หมู่มวล)
นักดนตรี
โมจิน พิชญาภรณ์ (ไวโอลิน)
พรชนก กาญจนพังคะ (เปียโน)
ธัชพงศ์ ศรีสุวรรณ (เชลโล)
นรัตชัย อิ่มสุทธิ (ซออู้ ,ขลุ่ย ,กลอง)
อำนวยการผลิต
ดวงใจ หิรัญศรี
บทละครและกำกับการแสดง
ประดิษฐ ประสาททอง
เรียบเรียงดนตรี
คานธี อนันตการ
ฉากและอุปกรณ์
กฤตชัย ศรีจักรวาฬ
แสงและเสียงประกอบ
ศรายุทธ เพชรสัมฤทธิ์
สื่อผสม
พงษ์พิชิต ไชยวุฒิ
เสื้อผ้า
ณิชา บูรณะสัมฤทธิ์
แต่งหน้า/ทำผม
สิทธิชัย เร็ววิโรจน์
ประสานงาน
ฉันทิกา โชติขจรไทย
ประชาสัมพันธ์
ผดุงพงศ์ ประสาททอง
วัชรี หวานเสียง
สุชัญญ์ญา สวาทใจ
ถ่ายภาพ
สมเจตน์ รูปกลม
แปลบทเป็นภาษาอังกฤษ
อารยา สูตะบุตร
ศรีบูรพา บันทึกแห่งอิสรา 2014
วันที่ : 28-31 สิงหาคม 2557
สถานที่ : Studio 4th Floor BACC
นักแสดง
คานธี วสุวิชย์กิต (กุหลาบ)
ดนย บุญทัศนกุล (กุหลาบวัยหนุ่ม,ผู้คุม)
มนทกานติ รังสิพราหมณกุล (ชนิด)
นิชาภา สะเอียบคง (ชนิดวัยสาว)
บุญสืบ พันธ์ประเสริฐ (สวง,พ่อค้า,หมู่มวล)
ประดิษฐ ประสาททอง (ท่านผู้นำ)
เขมฌัษ เสริมสุขเจริญชัย (สุวัฒน์,หมู่มวล)
ธงชัย พิมาพันธุ์ศรี (อาโก,อี๊ด)
สุขุมพันธ์ ฐิติธนพันธ์ (นายมั่น,นักโทษ 1)
จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ (นายคง,นักโทษ2)
สุกัญญา สมไพบูลย์ (สายหยุด,หมู่มวล)
เสาวนีย์ วงศ์จินดา (จำรัส,หมู่มวล)
พิรุฬห์ลักษณ์ แจ่มอำพร (แอ๊ว,ญาตินักโทษ)
พรรษวัชร์ รอดเกิด (นักโทษ)
นักดนตรี
กมล บูรณกุล (ไวโอลิน)
โสภณัฐ ฤกษ์สมุทร (เปียโน)
เสาวคล ม่วงครวญ (เชลโล)
สุรพงษ์ บ้านไกรทอง (ซออู้ ,ขลุ่ย ,กลอง)
ควบคุมการผลิต
สำนักพิมพ์ Writer
อำนวยการผลิต
ดวงใจ หิรัญศรี
บทละครและกำกับการแสดง
ประดิษฐ ประสาททอง
เรียบเรียงดนตรี
คานธี อนันตการ
กำกับเทคนิค
ศรายุทธ เพชรสัมฤทธิ์
ผู้ช่วยกำกับเทคนิค
กรชัย มีวงศ์
กำกับเวที
อภิชัย ตรงกลาง
เสื้อผ้า
ณิชา บูรณะสัมฤทธิ์
แต่งหน้า/ทำผม
วัชรพงษ์ สูงปานเขา
สุมนา จุนโกเศศ
แปลบทเป็นภาษาอังกฤษ
นพพันธ์ บุญใหญ่